เคล็ดลับเพิ่มสมาธิ เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น

เคล็ดลับเพิ่มสมาธิ

คนที่มีสมาธิย่อมทำงานได้ดี เทคนิคการนำสมาธิแผ่เมตตาไปใช้ในการทำงาน ให้ก้าวหน้ายิ่งกว่าเดิม ติดตาม เคล็ดลับเพิ่มสมาธิ คอลัมน์นี้ดูครับ

การใช้ชีวิตประจำวันในปัจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากมาย จนอาจทำให้คนเสียสมาธิ และวอกแวกได้ง่าย อย่างป้ายโฆษณาข้างทาง เสียงวิทยุในรถยนต์ การแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือ หรือวีดีโอรายการโปรดบนอินเตอร์เน็ต หากกิจกรรมที่ทำอยู่นั้นต้องใช้สมาธิสูง เช่น ขับรถ ฟังบรรยายในชั้นเรียน หรือคุยงานกับลูกค้า เป็นต้น การเสียสมาธิเพียงครู่เดียวก็อาจทำให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ ดังนั้น สมาธิจึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญ ในการดำเนินชีวิต ซึ่ง เคล็ดลับเพิ่มสมาธิ บางอย่างอาจช่วยเพิ่มสมาธิ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดียิ่งขึ้นได้

เทคนิคช่วยเพิ่มสมาธิ มีอะไรบ้าง ?

ในระหว่างนั่งเรียนหรือทำงาน บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าไม่เข้าใจสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้าเลย หรือใจลอยนึกไปถึงเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต ซึ่งอาการในลักษณะนี้บอกได้ถึงการ ขาดสมาธิ และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตได้อย่างไม่รู้ตัว

ดังนั้น ควรหาทางป้องกันสิ่งต่าง ๆ มารบกวนสมาธิ และเรียนรู้วิธีสร้างสมาธิให้มุ่งมั่นกับเป้าหมายที่ทำมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น ดังนี้

  1. จดจ่อกับสิ่งที่ทำ เริ่มจากการมีสมาธิกับสิ่งที่ต้องทำตรงหน้า เพราะหากไม่จดจ่อกับสิ่งที่ทำอยู่ อาจทำให้หลงลืมรายละเอียด หรือประเด็นสำคัญของเรื่องนั้นไป และพยายาม อย่าทำกิจกรรมหลายอย่างพร้อมกัน เพราะจะทำให้ผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
  2. ใช้ประสาทสัมผัสหลายด้านร่วมกัน เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มสมาธิ และประสิทธิภาพในการทำ สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น เช่น หากนั่งฟังการประชุม ก็ควรใช้วิธีจดบันทึกร่วมด้วย เพื่อให้ไม่พลาดประเด็นสำคัญไป หรือขณะขับรถ ก็ควรใช้ตาดูเส้นทาง และใช้หูคอยฟังเสียงสัญญาณจากรถคันอื่น ๆ ด้วย เป็นต้น
  3. หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน ในระหว่างที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ หากไม่จำเป็น อย่าเปิดทีวี ฟังเพลง หรือหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เพราะอาจทำให้เสียสมาธิ ทั้งนี้ มีการศึกษาของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า ผู้ที่ได้รับข้อความ หรือการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากโทรศัพท์มือถือในระหว่างทำงาน มีความเสี่ยงที่จะทำงานผิดพลาด มากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับข้อความแจ้งเตือนดังกล่าว
  4. พักเบรคระหว่างทำงาน เพราะสมองของคนเราจะกระตือรือร้น ในช่วงแรกของการทำงาน แต่หลังจากผ่านไปสักระยะหนึ่ง จะเริ่มเฉยชา และให้ความสนใจกับสิ่งนั้นน้อยลง จึงควรหยุดพักระหว่างที่ทำงาน เพื่อให้สมองได้พัก และกลับมามีความสนใจกับงานอีกครั้ง
  5. ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ ในเครื่องดื่มหลายชนิด ทั้งกาแฟ โคล่า หรือเครื่องดื่มชูกำลังต่าง ๆ แม้ช่วยให้มีสมาธิจดจ่อ แต่ก็ไม่ควรบริโภคมากเกินไป โดยควรดื่มกาแฟไม่เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือประมาณ 4 แก้ว เพราะหากได้รับคาเฟอีนมากเกินไป อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัว หัวใจเต้นเร็ว หรือท้องเสีย เป็นต้น
  6. รับประทานอาหารเสริม ในปัจจุบันเชื่อกันว่าอาหารเสริมบางชนิด อาจมีส่วนช่วยในการทำงานของสมอง เช่น น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เรสเวอราทรอล ครีเอทีน ฟอสฟาติดิลเซอรีน แอลคาร์นิทีน พรมมิ หรือโรดิเอลา เป็นต้น แต่ก็ยังต้องรอผลการวิจัยเพิ่มเติมให้ชัดเจนก่อน จึงจะสามารถยืนยันประสิทธิภาพ ในด้านนี้ได้ อีกทั้งอาหารเสริมบางชนิดยังอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง ต่อสุขภาพของผู้ใช้ด้วย ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ถี่ถ้วน ก่อนรับประทานอาหารเสริมทุกชนิด
  7. ฝึกสมอง ด้วยการทำกิจกรรมที่ช่วยบริหารสมองอย่างอ่านหนังสือ เรียนรู้ภาษาอื่นเพิ่มเติม หรือเล่นเกม ซึ่งการทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อของเซลล์สมองมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับความจำอย่างโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย
  8. รักษาสุขภาพ การรักษาสุขภาพทำได้ง่าย ๆ โดยเลือกรับประทานอาหาร ที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้พอดี และออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากโรคร้ายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสมอง โดยเพิ่มปริมาณสารแห่งความสุขเอ็นดอร์ฟิน ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า โรคหลอดเลือดสมอง โรคอัลไซเมอร์ และโรคเบาหวานด้วย
  9. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างที่ทราบกันดีว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอ ตามที่ร่างกายต้องการนั้นมีส่วนช่วยพัฒนา ทั้งทางร่างกาย และสมอง โดยหากพักผ่อนน้อยเกินไป อาจมีผลกระทบ ต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ทั้งด้านอารมณ์ ความคิด ความจำ การมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคบางชนิดอีกด้วย
  10. เลือกรับประทานอาหาร อาหารบางชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกาย และยังมีส่วนช่วยในการทำงานของสมองด้านความคิด ความจำ และอารมณ์ด้วย การรับประทานอาหารเช้ามีส่วนสำคัญ ที่ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น
  11. ฝึกทำสมาธิ การทำสมาธิมีประโยชน์หลายด้าน ทั้งทำให้มีสติกับงานที่ทำมากขึ้น เสริมสร้างบุคลิกภาพ ควบคุมอารมณ์ อีกทั้งยังมีการศึกษาพบว่า ผู้ที่ฝึกสมาธิจะทำให้สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์มีขนาดใหญ่ขึ้นอีกด้วย

มีพนักงานบริษัทประกันชีวิตอันดับ 1 ของประเทศไทยท่านหนึ่ง ได้นำการทำสมาธิไปใช้ในการทำงานให้เจริญก้าวหน้า โดยทุกครั้งก่อนที่จะไปพบลูกค้า จะนั่งสมาธิและแผ่เมตตานึกถึงหน้าบุคคลนั้นก่อน ได้พบอานุภาพหรือปาฏิหารย์สมาธิว่า.. เมื่อไปพบเจอลูกค้าจะให้สัมพันธ์เหมือนญาติหรือคนคุ้นเคยกันมาก่อน

#ลองประยุกต์นำเรื่องการทำสมาธิและแผ่เมตตาไปใช้ในภารกิจการงานท่านดู มีเรื่องดีๆเป็นประโยชน์มาเล่าสู่กันฟังครับ

แนะนำฝึก เรียนรู้การทำสมาธิเบื้องต้น